วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ใบเตย (กระทง hand made by pat)

ใบเตย : pandanus 

            เมื่อพูดถึงใบเตย  เชื่อว่าคงแทบไม่มีคนไทยคนใดที่ไม่รู้จัก  เพราะเตยเป็นพืชที่คนไทยคุ้นเคย  นำมาใช้ประโยชน์กันมากมายหลายวิธีตั้งแต่โบราณมาแล้ว  โดยเฉพาะการนำมาปรุงแต่งให้ขนมไทยมีกลิ่นหอม  อร่อย  สีสันน่ารับประทาน
         เตยมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน  แต่ที่เราคุ้นเคยและนำมาใช้ประโยชน์กันมากก็คือ  เตยหอม  ซึ่งมีชื่อทางพฤษศาสตร์ว่า  Pandanus odorus Ridl.
            เตยเป็นพรรณไม้จำพวกเดียวกับหญ้า  ขยายพันธุ์จากหัวหรือเหง้าใต้ดิน  แตกเป็นกอใหญ่  ใบสีเขียวเป็นมัน  ยาวประมาณ  8 10  นิ้ว  ขอบใบเรียว  ปลายใบเรียวแหลม
        
คุณค่าทางอาหารและสรรพคุณ
ในใบเตยมีน้ำมันหอมระเหย  เรียกว่า  Fragrant Screw Pine มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน  ซึ่งเป็นสาเหตุให้อาหารที่ใส่น้ำที่คั้นจากใบเตยมีรสหอมเย็นชื่นใจ  ในทางการแพทย์แผนไทยแนะนำให้ผู้ที่มีธาตุไฟธาตุเจ้าเรือนรับประทานอาหารที่ปรุงจากใบเตยเพราะเตยมีรสหอมเย็น
นอกจากนำมาประกอบอาหารได้แล้ว  เตยยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย  เช่น  ใบ  มีรสเย็นสบาย  เป็นยาช่วยบำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่น  ต้นและรากใช้เป็นยาขับปัสสาวะ  มีตำรับยาที่ให้นำใบเตยหอมมาต้มกับเนื้อไม้สักหรือใบสักแล้วดื่มน้ำ  ช่วยแก้โรคเบาหวาน  โดยมีคำแนะนำในการใช้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดว่า  ให้นำใบเตยหอม  32  ใบ  ใบสัก  9  ใบ  นำมาหั่นตากแดด  แล้วนำมาชงน้ำร้อนแบบชา  หรือนำมาใส่หม้อดินต้มดื่มน้ำยาต่างน้ำทุกวัน  หรืออาจใช้รากเตยหอมประมาณ  1  ขีด  น้ำสะอาดประมาณ  1  ลิตร  โดยนำรากเตยหอมสับเป็นท่อนๆ  ใส่น้ำต้มหลังจากเดือดแล้วหรี่ไฟลง  เคี่ยวต่อไปประมาณ  15 20  นาที  ดื่มครั้งละครึ่งแก้ว  เช้า  กลางวัน  เย็น  ทั้งนี้ต้องรับประทานยาตามสูตรใดสูตรหนึ่งอย่างน้อย  1  เดือน  พร้อมกับมีการติดตามวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วย
          นอกจากสรรพคุณที่ระบุไว้ในตำรายาไทยแล้ว  ยังมีการนำเตยหอมมาศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาในห้องทดลองอีกด้วย  พบว่าสารสกัดน้ำของใบเตยหอมและรากเตยหอมมีฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้เป็นเบาหวาน  สารสกัดน้ำจากใบยังมีฤทธิ์ลดความดันโลหิตและลดอัตราการเต้นของหัวใจซึ่งน่าจะตรงกับฤทธิ์ในการบำรุงหัวใจตามสรรพคุณยาไทยของใบเตย
          นอกจากนั้นยังมีการนำใบเตยมาทำเป็นสูตรบำรุงผิวหน้า  โดยนำใบเตยมาล้างน้ำให้สะอาด  หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ  ปั่นรวมกับน้ำสะอาดจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน  จะได้เนื้อครีมข้นและเหนียว  นำมาพอกหน้า  (ก่อนพอกหน้าต้องทำความสะอาดหน้าให้สะอาดเสียก่อนนะคะ)  ให้พอกทิ้งไว้  15 20  นาที  จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด  ให้ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ  3 4  ครั้ง  ประมาณ  1  เดือน  จะเห็นความแตกต่างที่เปลี่ยนไป

แต่วันนี้จะพามาดูประโยชน์จากใบเตยที่สามารถนำมาประยุกต์ ใครจะนำไปทำตามก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์นะค่ะ

                                  กระทง hand made by pat.. ^^


 




                                 ทำเอง ลอยเอง มีความสุขที่สุด

*ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.yangtalad.ac.th/worknid/worknid52/worknid50652/anuruk/index9.html




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น