วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เหตุเกิดที่สวนนัน





น้ำพริกลงเรือ อาหารที่ไม่ว่าใครก็เคยได้ยินชื่อกันทั้งนั้น แต่จะมีสักกี่คนที่ทราบถึงประวัติ และที่มาของชื่อน้ำพริกลงเรือ ที่มีรสชาติแสนอร่อยชนิดนี้ ว่าที่แท้จริงแล้วถือกำเนิดที่วังสวนสุนันทา
โดยเหตุนั้นเกิดจาก เดิม ณ วังสวนสุนันทายังคงเป็นสถานที่อันร่มรื่น อุดมสมบูรณ์ไปด้วยร่มไม้อันเขียวขจี มีแม่น้ำลำคลองไหลผ่าน ในช่วงเวลาพลบค่ำวันหนึ่ง สมเด็จเจ้าฟ้านิภานภดล กรมอู่ทอง พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระวิมาดาเธอ (สมเด็จอาหญิงน้อย) รู้สึกอยากจะเสวยอาหารในเรือ จึงรับสั่งให้คุณจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์ ที่ในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นห้องเครื่องประจำพระองค์ ว่า สดับ ไปดูซิว่าในครัวมีอะไรบ้างในเวลานั้นยังไม่ถึงเวลาเสวย คุณจอมสดับจึงเดินเข้าไปในห้องเครื่อง พบว่ามีเพียง ปลาดุกทอดฟู และน้ำพริกตำไว้เท่านั้น จึงหยิบน้ำพริกกับปลามาผัดรวมกัน เติมหมูหวานใส่ลงไปเล็กน้อยแล้วตามด้วยไข่เค็มทิ้งไข่ขาวแล้วเอาเฉพาะไข่แดงดิบวางเรียงรายลงไป พร้อมทั้งจัดเครื่องเคียงไม่ว่าจะเป็นผักต้ม หรือ ผักสด และจัดถวายเป็นอาหารมื้อเย็นบนเรือ ซึ่งทั้ง ๒ พระองค์ทรงโปรดน้ำพริกถ้วยนี้เป็นอย่างมาก และนี่จึงเป็นที่มาของ น้ำพริกลงเรือ จนถึงทุกวันนี้
และแล้วก็มาถึงกรรมวิธีในการทำน้ำพริกลงเรือ สูตรต้นตำรับฉบับชาววังกัน พวกดินทางไปยังบ้านของ คุณยายนิจ ซึ่งจะเป็นผู้ที่ให้ความรู้และสอนเราทำน้ำพริกลงเรือ คุณยายนิจ กล่าวถึงวัตถุดิบในการประกอบอาหาร ประกอบไปด้วย กะปิ พริกชี้ฟ้า พริกขี้หนู กระเทียม น้ำปลา น้ำตาล มะนาว กระเทียมดอง ไข่เค็ม ปลาดุกฟู และหมูหวาน เริ่มแรกในขั้นตอนวิธีการทำ ต้องเริ่มจากการนำพริกชี้ฟ้าโขลกอย่างละเอียด ตามต่อด้วยกระเทียม กะปิ โขลกต่อให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล มะนาว และพริกขี้หนู ปรุงให้มีรสชาติกลมกล่อมครบทั้งสามรส หลังจากชิมรสชาติจนได้รสชาติที่กลมกล่อมครบทั้ง ๓ รสแล้ว จึงใส่หมูหวานลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักขึ้นใส่ถ้วย สุดท้ายโรยด้วยปลาดุกฟูกรอบ ไข่เค็ม(เฉพาะไข่แดง) และกระเทียมดอง ตกแต่งหน้าตาให้สวยงาม เพียงเท่านี้น้ำพริกลงเรือสูตรชาววังก็สำเร็จ พร้อมทานคู่กับเครื่องเคียงไม่ว่าจะเป็นผักสด หรือผักต้มชนิดต่าง ๆ
ซึ่งเคล็ดลับของการทำน้ำพริกลงเรือ นอกจากรสชาติที่กลมกล่อมแล้วการใช้สากไม้ในการโขลกน้ำพริก ยังมีส่วนกับรสชาติ เนื่องจากการใช้สากหินเมื่อโขลกวัตถุดิบต่าง ๆ นั้นจะมีเศษหินจากครกหรือสากที่แตกปนเปื้อนมากับอาหารได้ 



1 ความคิดเห็น: