วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เหล้า ปัญหาชุมชน


            ร้านเหล้ารอบมหาวิทยาลัยพบได้ในหลายพื้นที่ ถือเป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไข เพราะเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว สามารถเจาะเงินในกระเป๋าของนักศึกษาได้ทุกวัน ทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้ไม่น้อยโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น
            ปัจจุบันนี้ปัญหาพฤติกรรมการดื่มสุราของคนไทยไม่ใช่เรื่องธรรมดาอีกต่อไป เพราะว่าพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของวัยรุ่นเป็นปัญหาใหญ่ในสังคม อีกทั้งยังทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่มีแค่ผู้ใหญ่ที่ดื่มสุรา แต่ยังมีทั้งเด็กวัยรุ่น และเยาวชนที่ดื่มสุราเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เพราะปัญญาของวัยรุ่นในการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มีมากขึ้น เนื่องจากวัยรุ่นเป็นวัยที่ชอบทดลองสิ่งต่างๆและเป็นวัยแห่งการเปลี่ยนแปลงในทุกๆด้านซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุนำไปสู่การแสดงออกทางพฤติกรรมต่างๆ ที่ไม่เหมาะสม อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงด้านสังคมของวัยรุ่น เช่น การคบเพื่อน การต้องการความเป็นอิสระ ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งภายในครอบครัวจนเป็นสาเหตุนำไปสู่พฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของวัยรุ่นได้ โดยเฉพาะวัยรุ่นในครอบครัวที่มีปัญหา และในปัจจุบันก็มีแนวโน้มว่าจะเกิดปัญหาขึ้นในวัยที่อายุน้อยลงเรื่อยๆ  ก่อให้เกิดการติดสุราเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ มีพฤติกรรมส่อไปในทางการเกิดอาชญากรรมเพิ่มขึ้นจนบางคนถึงขนาดถูกจับกุมดำเนินคดีได้และที่สำคัญ คือปัญหาการเกิดอุบัติเหตุเป็นพฤติกรรมเสี่ยงอย่างหนึ่งที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
            นอกจากปัญหาพฤติกรรมการดื่มสุราของวัยรุ่นแล้ว สำหรับผู้ใหญ่เองก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน เพราะการที่เด็กดื่มสุรา ส่วนหนึ่งก็อาจเกิดจาการอบรมเลี้ยงดูจากบิดา มารดาด้วย
และถ้าหากในครอบครัว บิดามารดามีพฤติกรรมการติดสุรา ก็จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่บุตร ทำให้ลูกมีปัญหา หรือ อาจเกิดความรุนแรงถึงขั้นเกิดการทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้นภายในครอบครัว
จากปัญหาการดื่มสุราไม่ได้เป็นเพียงปัญหาในระดับครอบครัวเท่านั้น แต่เป็นปัญหาระดับประเทศ เพราะ หลังจากการดื่มสุราแล้วก็อาจเกิดปัญหาต่างๆตามมา เช่น การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ปัญหาอาชญากรรม จากคดีต่างๆตามมาหลายคดี
            จะเห็นว่า การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเยาวชนก่อให้เกิดผลกระทบมากมาย และในปัจจุบันนักเรียน นิสิต นักศึกษา ต้องเรียนและพักอาศัยท่ามกลางร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งความหนาแน่นของร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษามีผลต่อการเพิ่มแรงจูงใจในการดื่มและสร้างทัศนคติทางบวกต่อการดื่ม รวมทั้งเพิ่มจำนวนการเป็นนักดื่ม ดังนั้น การมีมาตรการควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษาจึงเป็นสิ่งจำเป็น ก่อนที่ประเทศไทยจะครองแชมป์นักดื่มของโลก
            จากสถานการณ์การดื่มสุราของวัยรุ่นไทยที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เป็นที่สนใจมากในสังคม สังคมก็เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาจากการดื่มสุราเป็นอย่างมากจึงพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาและเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธีให้กับประชาชนได้นำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ในยุคสมัยนี้การที่ใครสอบติดเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยก็ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจให้กับตนเองและครอบครัว  พ่อแม่ผู้ปกครองคงต้องมีการวางแผนหรือเตรียมพร้อมถึงการใช้ชีวิตด้วยตนเองของบรรดาลูกสาวลูกชาย   แต่ก็เป็นเพียงได้แค่พร่ำสอนหรือชี้แนะเท่านั้น  เพราะชีวิตในวัยนี้เป็นชีวิตที่อิสระ  ใครจะรู้ได้ว่าระหว่างการดำเนินชีวิตในมหาวิทยาลัยนั้นสิ่งแวดล้อมในมหาวิทยาลัยไม่ได้เป็นตัวแปรสำคัญไปเสียทุกอย่าง  แต่ตรงกันข้ามภายนอกมหาวิทยาลัยที่เป็นแหล่งชุมชนของนักศึกษาต่างสาขาต่างคณะต่างชั้นปี  และต่างที่มา  ทุกคนถูกล่อหลอมให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  ด้วยสังคมที่อิสระเปิดกว้าง
ไม่แปลกเลยที่ปัจจุบันนี้จะเห็นร้านเหล้าหรือสถานบริการยามค่ำคืนเกลื่อนกลาดรายล้อมรอบมหาวิทยาลัยเพราะช่วงชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยนี้เป็นช่วงที่เยาวชนใช้เวลาหมดไปกับเพื่อนฝูงเสียส่วนใหญ่  ดังนั้นการสังสรรค์ในหมู่เพื่อนด้วยกันจึงหนีไม่พ้น “ร้านเหล้า”  หรือร้านอาหารที่ต้องยอมรับเลยว่ามีเครื่องดื่มแอลกอฮอร์รวมอยู่ด้วย 
ถ้ามองในแง่ดีร้านเหล้าก็เป็นเพียงแหล่งบันเทิงเพื่อพักผ่อนหลังจากเคร่งเครียดกับการเรียน  นัดเพื่อสังสรรค์หลังสอบเสร็จแต่ถ้ามองให้รอบด้านผลเสียที่เกิดจากการท่องราตรีของนักศึกษานั้นมีให้เห็นเป็นตัวอย่างมากมาย  การเข้าไปมั่วสุมภายในผับบาร์  ในนั้นไม่ได้มีเพียงเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอร์  อบายมุขนับไม่ถ้วนรวมตัวกันอยู่ ณ ที่แห่งนั้น  สถานประกอบการณ์ร้านเหล้าส่วนใหญ่มีพฤติการณ์ที่ “ผิดกฎหมาย” อนุญาตให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการ  นั่นก็หมายถึงนักศึกษาชั้นปีที่ 1-2 นั่นเอง
เด็กปีหนึ่งที่เพิ่งออกจากอกของพ่อแม่  มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวเองภาวะการตัดสินใจ  ความรับผิดชอบยังมีน้อย  การเดินเข้าสู่วิถีอโคจรนั้นเป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก  แต่กระนั้นผู้ประกอบการร้านเหล้าไม่ได้มองถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับเหล่าปัญญาชน   แต่เล็งเห็นผลกำไรมากกว่า  ยิ่งนักศึกษาในมหาวิทยาลัยมีจำนวนมากกำลังซื้อก็มากตามเพราะเยาวชนเหล่านี้ขอเงินพ่อแม่ใช้  ยังไม่รู้จักการใช้ชีวิตที่แท้จริง 
แต่ละร้านมีการจัดโปรโมชั่นล่อตาล่อใจ  ดึงดูดกลุ่มเยาวชนที่อยากรู้อยากลองให้เข้ามาสัมผัส  บรรยากาศที่ดึงดูดเช่นนี้ไม่แปลกเลยที่ทุกค่ำคืนรอบรั้วมหาวิทยาลัยจะคราคร่ำไปด้วยผู้คนนุ่งน้อยห่มน้อยอวดสายตาหนุ่มๆในร้านเหล้า  เสียงเพลงอึกกระทึกและฤทธิ์ของแอลกอฮอร์ส่งผลต่อความรู้สึกนึกคิดและอารมณ์ที่นาทีนี้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้  การแสดงออกคำพูดจาไม่ต่างไปจากคนบ้า  ปัญหาการทะเลาะวิวาท  ปัญหาเรื่องชู้สาว  ปัญหาการโดนกระทำชำเรามีตัวอย่างให้เห็นอยู่เต็มเมือง 
แต่การแก้ปัญหาเรื่องนี้ก็ยังไม่ถึงที่สุด  จะโทษแต่หน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างเดียวก็ไม่ถูกไปเสียทั้งหมด  ซึ่งการแก้ไขปัญหาต้องเริ่มจากสถาบันที่สำคัญที่สุด  คือ  ครอบครัวที่ต้องปลูกฝังให้เยาวชนรู้จักหน้าที่ตนเอง  มีความรับผิดชอบมากขึ้นกว่านี้  เพราะเช่นนั้นจะส่งผลเสียกับตัวนักศึกษาเองทั้งด้านการเรียนชีวิตประจำวัน  และทางมหาวิทยาลัยต้องมีมาตรการเด็ดขาดเพื่อเป็นส่วนช่วยไม่ให้ธุรกิจร้านเหล้าเติบโตจนเกินกว่าที่จะรับไหว เพื่อไม่ให้เกิดกรณีการน้ำเมาคุกคามปัญญาชนอนาคตของชาติ
            นายเกียรติก้อง วรรธนะสุขสันต์ ประธานกรรมการชุมชนสวนอ้อย บอกว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวชุมชนว่า มีนักศึกษาทะเลาะวิวาท ในขณะที่ร้านเครื่องดื่ม (ผับ) ก็เปิดเพลงเสียงดัง เป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่ชาวชุมชน ซึ่งแม้ว่าตนเป็นประธาน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีอำนาจไปห้ามปราม ได้แต่ขอความร่วมมือไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้บริหารสถาบันการศึกษาที่อยากให้ออกมาดูแล หรือมีมาตรการควบคุมนักศึกษาไม่ให้ทะเลาะวิวาทกัน นอกเหนือจากทางเขตและสถานีตำรวจ ไม่ใช่โยนภาระมาให้ชุมชนแต่ฝ่ายเดียว “ชาวบ้านเขานอนไม่ได้ มาฟ้องผม แล้วผมก็ทำอะไรไม่ได้ เขาก็หาว่าผมไม่ทำงาน ผมไปทำเองไม่ได้หรอก ต้องเอาผู้ที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายได้ หรือว่าทางอาจารย์ลงมาช่วย เพราะถ้าช่วยกันมันทำได้ ผมคนเดียวทำไม่ได้ เราได้แต่วางนโยบายป้องกันการเกิดเหตุร้าย มันไม่มีใครมาช่วยผมก็ลำบาก”
            ความจริงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของวัยรุ่น คงห้ามกันลำบากเนื่องจากกระแสโลก กระแสทุน กระแสบริโภคนิยม มีแนวโน้มจะไปในทิศทางนั้น จะดูได้จากการโฆษณารวมทั้งสื่อในรายการบันเทิงต่างๆ เช่น ละครในโทรทัศน์ ภาพยนตร์ รวมทั้งรายการเพลงต่างๆ
           
พฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของวัยรุ่นมีมากกว่าในอดีตเป็นอันมาก โดยเฉพาะวัยรุ่นเพศชายมีอัตราการดื่มมากกว่าเพศหญิงประมาณ 8 เท่า เพศชายมีการเริ่มดื่มอายุต่ำสุด คือ อายุ 11 ปีขึ้นไป และเพศหญิงที่เริ่มดื่ม คือ อายุ 15 ปีขึ้นไป และจะเห็นได้จากผลสำรวจว่าเยาวชนที่มีการเริ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงสุดจะอยู่ที่อายุ 17 ปี
            ส่วนประเภทแอลกอฮอล์ที่ทำให้วัยรุ่นเริ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อันดับ 1 คือ เบียร์ สาเหตุที่ทำให้เริ่มดื่ม เช่น มีการเข้าสังคมหรือมีการสังสรรค์กันเป็นประจำ อยากทดลองดื่ม และเพื่อนชวนให้ดื่ม ตามลำดับ สำหรับแรงจูงใจที่สำคัญในการทำให้วัยรุ่นดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คือ แรงจูงใจทางสังคมและเป็นที่ยอมรับของบรรดาเพื่อน
            ปัจจุบันธุรกิจร้านสุรา เบียร์ ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยบริษัท สุรา เบียร์ พยายามหาลูกค้ารายใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น จึงไม่แปลกใจเลย ว่าทำไม ร้านขายสุรา เบียร์ จึงเกิดขึ้นในบริเวณ มหาวิทยาลัย สถานศึกษา มากขึ้นทุกวัน และเจ้าของธุรกิจขายสุรา เบียร์ ก็คิดว่าการขายสุรา เบียร์ไม่ใช่เรื่องผิดศีลธรรมเพราะเป็นการประกอบธุรกิจที่สุจริตอย่างหนึ่ง
            ถึงแม้รัฐบาลจะมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศ ก็ตามเพราะ กฎหมายเป็นกฎหมายจำกัดสถานที่จำหน่าย แต่ไม่ใช้กฎหมายห้ามดื่ม ดังนั้น ผู้ที่เป็นนักดื่มก็คงต้องหาดื่มกันต่อไปในสถานที่ซึ่งกฎหมายเปิดช่องให้จำหน่ายได้
ผลกระทบจากการดื่ม สุรา เบียร์ ของวัยรุ่นซึ่งอยู่ในวัยเรียน ส่วนมากมักทำให้การเรียนตกต่ำ เนื่องจากต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเที่ยวกลางคืน และ เมา เนื่องจากเวลาดื่มเหล้า เบียร์ไปมากๆ ติดต่อกันหลายวัน จะทำให้รู้สึกเบลอๆ มึนๆ ไม่สดชื่น รู้สึกเฉื่อยชา หลงๆ ลืมๆ ทำให้การศึกษาเล่าเรียนไม่มีประสิทธิภาพ เพราะสมองสั่งการช้าลง
            การดื่ม เหล้า เบียร์ ของวัยรุ่นยังนำไปสู่การมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน บางรายเมาแล้วขับ ซึ่งนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุมากมาย ถึงแม้รัฐบาลจะขึ้นภาษี สุรา เบียร์และ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ตาม แต่การดื่มสุรา เบียร์ ของประชาชนคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นคงต้องมีต่อไป และรัฐบาลจะใช้กฎหมายบังคับไม่ให้ดื่มก็คงทำได้ยาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับจิตใต้สำนึกของผู้ดื่มแต่ละคนด้วยว่าจะพึงปฏิบัติตนอย่างไรในการหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยลง และ หันมารักษาสุขภาพของตนเองให้มากขึ้น
            ปัญหาเช่นนี้คงจะต่อไปเรื่อย ๆ ถ้าไม่มีใครหรือฝ่ายใดเข้ามาดูแลอย่างเช้มงวดจริงจัง ดังนั้นคงต้องอาศัยความร่วมมือจากชุมชน จากผู้ประกอบการร้านเหล้า และที่สำคัญจะต้องอาศัยความร่วมมือจากตัวนักศึกษาเอง ถ้าเราตระหนักในหน้าที่  มีความรับผิดชอบ ปัญหาเหล่านี้ก็คงจะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น